สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓
วัดคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

สิ่งที่สถานศึกษาต้องเตรียม ในการจัดค่ายปฏิบัติธรรม

และค่ายพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษา

 

โดยคณะพระธรรมวิทยากรประจำสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา

​ 

                 ทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า การจัดค่ายพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษา ของคณะพระวิทยากรวัดคุ้งตะเภานั้น ดำเนินการในนามของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา อันเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของมหาเถรสมาคม และการอุปถัมภ์ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยพระธรรมวิทยากร ซึ่งผ่านการอบรมจากหลักสูตรพระธรรมทายาท กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และจากหลักสูตรอบรมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา ได้บูรณาการกับหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลคุ้งตะเภามีหน้าที่หลักในการเผยแผ่ดำเนินการจัดการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในโรงเรียน และจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้และปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชน ให้กับสถานศึกษาต่าง ๆ ที่สนใจ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยปัจจุบันได้มุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการบ้าน-วัด-และโรงเรียน ที่ส่งเสริมและเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาผู้เรียนในการพัฒนาทุกด้านให้เต็มศักยภาพ จึงได้มีการขยายผลเป็นการสร้างหลักสูตรการจัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกที่ดีให้นักเรียนได้อยู่รอดในสังคม และเป็นคนดีมีคุณภาพ การสร้างหลักสูตรค่ายพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษา โดยคณะพระวิทยากรประจำสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา จึงมีขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อตอบสนองความต้องการของสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีความพร้อม และเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของสถานศึกษาในการจัดค่ายอบรมคุณธรรมแก่นักเรียน

                 โดยหลักสูตรการจัดอบรมค่ายคุณธรรมฯ  ของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา เน้นการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ๘ กลุ่มสาระ เน้นการบูรณาการแบบสอดแทรก  (Infusion Instruction) โดยการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง มีกิจกรรมให้ผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้สร้างความรู้ด้วยตนเอง   ให้ผู้เข้ารับการอบรมมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกัน  ได้เรียนรู้ร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ความคิด และประสบการณ์แก่กันและกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  ให้ผู้เข้ารับการอบรมมีบทบาท และมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด  ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมครั้งนี้สามารถนำความรู้ที่ได้ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน  เพื่อเป็นคนดีของสังคม และมีทักษะในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต

        ทั้งนี้ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา มีความยินดียิ่ง และพร้อมให้ความสนับสนุนในด้านสถานที่ และ/หรือด้านบุคลากรอย่างเต็มที่ โดยไม่มุ่งหวังค่าตอบแทนแต่ประการใด หากสถานศึกษาต่าง ๆ จะดำเนินการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการเช่นนี้ขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมกันพัฒนานักเรียนให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี และพลเมืองที่ดีของสังคมประเทศชาติสืบไป

 

        โดย หลักสูตรการจัดค่ายพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษาของคณะพระวิทยากรประจำสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา มี ๒ ลักษณะ คือ

 

             ๑.ค่ายอบรมคุณธรรม

     ๑.๑ ค่ายคุณธรรม หมายถึง ค่ายพัฒนาคุณธรรมที่มีการเข้ารับการอบรม ๑ คืน ๒ วัน ตามหลักสูตรพิเศษ ของโครงการ

       ๑. ๒ การอบรมคุณธรรม หมายถึง กิจกรรมพัฒนาคุณธรรม ในลักษณะที่ไม่ได้ค้างคืน เป็นหลักปกติ ในกรณีที่ไม่สะดวกในการจัดค่ายพักแรม

 

             ๒.ค่ายอบรมปฏิบัติธรรม

    ๒.๑ ค่ายปฏิบัติธรรม หมายถึง ค่ายอบรมฝึกปฏิบัติธรรมตามแนวทางสติปัฏฐานสี่ ที่มีการเข้ารับการอบรม ๑ คืน ๒ วัน 

      ๒. ๒ การอบรมปฏิบัติธรรม หมายถึง กิจกรรมฝึกอบรมปฏิบัติธรรมตามแนวสติปัฏฐานสี่ ในลักษณะที่ไม่ได้ค้างคืน เป็นหลักปกติ ในกรณีที่ไม่สะดวกในการจัดค่ายพักแรม

 

 

 

 

๑.การดำเนินการเบื้องต้น

-ประชุมวางแผน

-สำรวจข้อมูล  นักเรียนนักศึกษา (ในระดับเดียวกันไม่ควรห่างกันเกิน ๓ ชั้นปี ) ประมาณ ๑๐๐ – ๒๐๐ คน ตามแต่สถานที่อบรมพึงจะรับได้ อาจเป็นหอประชุม/ศาลาวัด/สถานที่อื่น ๆ

 

-ติดต่อประสานงานขอเข้าร่วมโครงการ/ส่งหนังสือนิมนต์พร้อมโครงการ

 

นมัสการ          พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ

                                            สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ 

                                            วัดคุ้งตะเภา บ้านคุ้งตะเภา หมู่ ๔ ถนนสายเอเชีย

                                            ตำบลคุ้งตะเภา   อำเภอเมือง  จังหวัดอุตรดิตถ์ ๕๓๐๐๐

                                   โทรศัพท์   ๐๘๔ – ๘๑๓๑๓๑๕ /๐๘๖ – ๖๒๘๔๙๐๐

                                   หรือส่งอีเมล์ มาที่ watkungtaphao@facebook.com

 

หรือ ทำหนังสือราชการขอความอนุเคราะห์พระวิทยากรระบุ "คณะพระวิทยากรวัดคุ้งตะเภา"         

                    เรียน               ผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์                                             ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์  ชั้น ๔ 

                                            ถนนประชานิมิตร  ตำบลท่าอิฐ

                                            อำเภอเมือง  จังหวัดอุตรดิตถ์  ๕๓๐๐๐

                                   โทร. ๐ ๕๕๔๑ ๗๖๘๒  (กลุ่มส่งเสริมพระพุทธศาสนาและกิจการพิเศษ)

                                  

 

๒.การฝึกอบรม

          ๒.๑ ตามหลักสูตร ตารางการอบรม ที่แนบมาด้วย และตามปัญหาของผู้เข้ารับการอบรม โดยการประสานความร่วมมือ ระหว่าง  พระวิทยากร  และครูผู้สอน

          ๒.๒ หากสถานศึกษามีความประสงค์ที่จะให้หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลคุ้งตะเภา ออกใบเกียรติบัตรจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ให้ กรุณาแจ้งล่วงหน้า

 

๓.การเดินทาง-วิทยากร

          ๓.๑   สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการเดินทาง โดยอาจจัดพาหนะรับ-ส่ง หรือ  จัดถวายค่ายานพาหนะ ตามจริง

          ๓.๒   พระธรรมวิทยากรจิตอาสา เผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่รับถวายค่าพระวิทยากร หากมีศรัทธาจะถวาย ห้ามเก็บค่าใช้จ่ายหรือเรี่ยไรจากผู้เข้ารับการอบรมเด็ดขาด (สำคัญมาก)

 

 

๔.บุคลากร

- พระวิทยากร/วิทยากร  ๓ รูป/คน

- ครูอาจารย์ ที่ปรึกษา (เข้าร่วมกิจกรรม) จำนวน ๑ คน/นักเรียนนักศึกษา ๒๐ คน

- พี่เลี้ยง (ถ้ามี)  ได้แก่นักเรียนนักศึกษา รุ่นพี่ จำนวน ๑ คน/นักเรียนนักศึกษา ๒๐ คน

 

๕.สิ่งที่ สถานศึกษาต้องจัดเตรียม  สำคัญมาก...........

 

- ห้องประชุม/ศาลาอบรม  ที่เงียบสงบ  สามารถควบคุมแสงได้

- เครื่องคอมพิวเตอร์-เครื่องปริ้น  ๑  ชุด (สำหรับให้ทางสถานศึกษาช่วยงานด้านเอกสาร)

- เครื่องฉายโปรเจคเตอร์  พร้อมจอ (หากไม่มีกรุณาแจ้งล่วงหน้า)

- ถาดหลุม/จานช้อน เท่าจำนวนผู้เข้ารับการอบรม      

- เครื่องเสียงที่พระวิทยากรสามารถควบคุมได้เองหน้าเวที พร้อมไมค์  ๒ ตัว (หากไม่มีกรุณาแจ้งล่วงหน้า)

- ที่ล้างจาน                      

- สถานที่อาบน้ำ  แยก ชาย – หญิง    สถานที่พัก  แยก  ชาย – หญิง

- ยารักษาโรค สำหรับปฐมพยาบาล    

- เกียรติบัตรสำหรับถวายพระวิทยากรทุกรูป ออกในนามสถานศึกษา

- การออกหนังสือเชิญแขกผู้มีเกียรติมาร่วมพิธีเปิด – ปิด โครงการ (ตามกำหนดการ)

- ป้าย โครงการ  ทางสถานศึกษาจะใช้ชื่อโครงการอย่างไรก็ได้  แต่...ควรมีข้อความต่อไปนี้ร่วมด้วย

 

ค่าย......................................................................

โดย  โรงเรียน/วิทยาลัย.........................................

ร่วมกับ คณะพระวิทยากรสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา 
และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์

วันที่ ...........-...........เดือน........................พ.ศ....................

 

- เกียรติบัตร  - วุฒิบัตร ของผู้เข้ารับการอบรม ครู  พี่เลี้ยง (ให้ประสานกับพระวิทยากร)

- เทียนไขสีขาวขนาด  ๑  บาทเท่าจำนวนพระ/ครู/นักเรียน/ผู้ร่วมกิจกรรม จุดเทียน

- กระดาษถ่ายเอกสาร  ๑  รีม (๕๐๐ แผ่น)

- ปากกาเคมี  แบบ ๒ หัว  สีน้ำเงิน ๒๐ คน/๑  แท่ง

- แผ่นกระดาษชาร์ทขนาดใหญ่ ๑ แผ่น และสีเทียนสำหรับระบายสี  ๒๐ คน/๑  ชุด

- สายสิญจน์ ผูกข้อมือเท่าจำนวนผู้เข้าอบรม  ครู, อาจารย์

- ปากกา      

- สมุดบันทึก 

- บัตรป้ายชื่อผูกเชือกคล้องคอ ขนาด  ๔ X ๕ นิ้ว    คละสี ตามกลุ่ม

- ที่พักพระวิทยากร  ควรอยู่ไม่ไกลจากห้องอบรม                                                                 

 

๖.สิ่งที่ทางคณะพระวิทยากรวัดคุ้งตะเภา จะสนับสนุน

• พระวิทยากร                                      

• สื่อประกอบการอบรม

• หนังสือสวดมนต์ (ถ้าทางสถานศึกษาไม่มี)

• อุปกรณ์กล้องถ่ายภาพ professional DSLR พร้อมเลนส์ช่วงกว้าง 18-55, 105-300

• อุปกรณ์กล้องบันทึก VDO สำหรับบันทึกภาพและวีดีโอ ตลอดกิจกรรม

• การประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่าน Social media สื่อสังคมออนไลน์ และเว็บไซต์วัดคุ้งตะเภา เว็บไซต์ทางพระพุทธศาสนาซึ่งมีสถิติผู้เข้าชมสูงสุดในจังหวัดอุตรดิตถ์

 

๗.อุปกรณ์ส่วนตัวที่ผู้เข้ารับการอบรมควรนำมาด้วย

•  ชุดนักเรียน/นักศึกษา ๑ ชุด  (สำหรับใส่ในวันเปิด และวันปิด)

•  ชุดสำรองเสื้อยืดสีขาว    กางเกงขายาวไม่ควรเป็นกางเกงยีนส์ หรือชุดพละ/ชุดกิจกรรมสถาบัน  ๒  ชุด

•  แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน,สบู่,ยาสระผม,ขันน้ำ,ผ้าผลัดเปลี่ยน ฯลฯ (ที่จำเป็น)

 

๘.หลังจากปิดโครงการ

• ทาง คณะพระวิทยากรสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ วัดคุ้งตะเภา จะติดตามผลการพัฒนาด้านคุณธรรมของผู้เข้ารับการอบรมและสถานศึกษาเพื่อพิจารณาสนับสนุนในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยขึ้นทะเบียนและอยู่ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิ ๒๕๐ ปี วัดคุ้งตะเภา (องค์กรสาธารณประโยชน์)

• หลังการอบรม ภายใน ๓๐  วัน ขอให้สถานศึกษาทำรายงานสรุปโครงการดังกล่าว ในนามสถานศึกษา  จำนวน  ๑  เล่ม  เพื่อทาง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ จะได้เก็บเป็นข้อมูลเพื่อการศึกษาต่อไป